สธ. แถลง พบคนขับแท็กซี่ชาวไทย ติดไวรัสโคโรน่า เป็นคนไทยรายแรก ไม่มีประวัติเดินทางไปจีน เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าอีก 5 ราย รวมเป็น 19 รายแล้ว...
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 พบผู้ป่วยติดเพิ่มอีก 5 ราย รวมเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 จำนวน 19 ราย ขณะนี้กลับบ้านได้ 7 ราย นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 12 ราย โดยทุกรายมีอาการดีขึ้น
“ผู้ป่วยที่พบใหม่ 5 รายนั้น เป็นคนจีน 4 ราย ประวัติการเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย และอีก 1 รายเป็นคนไทย ซึ่งเป็นคนไทยรายแรกที่ไม่มีประวัติเดินทางไปจีน แต่ทำงานเกี่ยวข้องกับคนจีน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลบําราษฎร์นราดูร ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว” นพ.สุขุม กล่าว
นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรณีคนไทยที่ประกอบอาชีพแท็กซี่ จำนวน 1 ราย ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ได้พยายามสอบสวนโรคว่าเขาสัมผัสใครบ้าง พบว่าแท็กซี่คนดังกล่าว สัมผัสคนในครอบครัว ประกอบด้วย ภรรยา ลูก หลาน คนใกล้ชิด รวม 13 คน
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบ เก็บตัวอย่างจากคอผู้สัมผัสทุกคน โดยผลการตรวจ ไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงรายใด ติดเชื้อเพิ่มเติม
“สำหรับผู้ที่กังวลว่า จะขึ้นแท็กซี่คันนั้นต่อจากคนจีน แล้วจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือเปล่า ขอยืนยันว่า หลังแท็กซี่คนดังกล่าวป่วย เขาหยุดทำงานทันที เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าวันนั้นฉันขึ้นแท็กซี่ แล้วฉันจะติดโรคไหม ซึ่งเราขอยืนยันว่า ความเสี่ยงที่คนไทยมีจะสัมผัสเชื้อปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังอยู่ในระดับต่ำ” นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะและผู้ใช้บริการขอให้ดูแลสุขลักษณะส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือแอลกอฮอล์ หมั่นทำความสะอาดยานพาหนะหลังให้บริการ หากพบผู้โดยสารมีอาการไอ จาม มีน้ำมูก ขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย หากเป็นไปได้ให้เตรียมเจลล้างมือแอลกอฮอล์สำรองไว้.
อ่านเพิ่มเติม...
2020-01-31 09:50:00Z
https://news.google.com/__i/rss/rd/articles/CBMiNWh0dHBzOi8vd3d3LnRoYWlyYXRoLmNvLnRoL25ld3MvbG9jYWwvYmFuZ2tvay8xNzYxMDUz0gEA?oc=5
0 Comments:
Post a Comment