สธ.แถลงตัวเลข พบป่วยโคโรน่าไวรัสฯ ในไทย เพิ่ม 6 ราย ในจำนวนนี้ 5 ราย เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และมาจากเมืองอู่ฮั่น ผู้ป่วยทั้งหมด 14 ราย ทุกรายติดเชื้อจากนอกประเทศ สั่งคัดกรองคนจีนทุกราย 100% ที่เข้าประเทศไทย
วันที่ 28 ม.ค.ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019
นพ.สุขุม กล่าวว่า สถานการณ์โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ขณะนี้ในประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันติดโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม 6 รายเป็นชาวจีนทั้งหมดมีอายุตั้งแต่ 6-60 กว่าปี รวมของเก่า 8 ราย ทำให้ยอดสะสมขณะนี้มีผู้ป่วย 14 ราย
ผู้ป่วยพบใหม่ 5 ราย มาจากอู่ฮั่น คนครอบครัวเดียวกัน
ในจำนวนนี้อนุญาตให้กลับแล้ว 5 ราย อีก 9 รายยังพักรักษาตัวอยู่ในห้องแยกโรค ซึ่งทุกรายอาการดีขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจ คือ ในผู้ป่วยรายใหม่ 6 รายนั้นพบว่า 5 รายมาจากอู่ฮั่น ซึ่งถือเป็นการติดเชื้อในครอบครัวเพราะเป็นคนในตระกูลเดียวกัน ส่วนอีก 1 รายมาจากหูเป่ย เมื่อมีอาการป่วยและมาจากประเทศจีนจึงมาพบแพทย์และเข้ารับการตรวจจนพบก็นำเข้ารักษาที่ห้องแยกโรคทันที
ผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 136 ราย ส่วนใหญ่มาพบแพทย์เอง
สำหรับผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคมี 136 ราย คัดกรองพบจากสนามบิน 29 ราย มาพบแพทย์เอง 107 ราย อนุญาตให้กลับบ้าน 55 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เหลือรักษาในโรงพยาบาล 81 ราย
ชี้โอกาสแพร่เชื้อในไทย "น้อยมาก"
ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยในครอบครัวเดียวกัน เดินทางมาไทยเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จีนจะประกาศปิดเมืองวันที่ 23 ม.ค.ซึ่งมีประวัติการเดินทางมาไทยทั้งหมด 7 ราย และก่อนเดินทาง 3–4 วัน มี 1 ใน 7 ราย ที่มีอาการไข้ และเมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจจับได้ที่สนามบิน จึงนำเข้ารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนอีก 6 คนที่เหลือก็มีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจนพบป่วยเพิ่มอีก 4 ราย มีอาการ จึงนำเข้าห้องแยกโรคทันที ดังนั้น โอกาสแพร่เชื้อจึงน้อยมาก ส่วนอีก 2 รายแข็งแรงดี
พบผู้ป่วยทั้งหมด มาจากมณฑลที่มีการแพร่ระบาด
สำหรับผู้โดยสารที่มาสายการบินเดียวกันมี 22 ราย จำนวนหนึ่งเดินทางกลับแล้วส่วนที่เหลือก็อาการปกติดี และผู้ป่วยที่พบทั้งหมดยังเป็นผู้ป่วยที่มาจากมณฑลที่มีการแพร่ระบาดอย่างชัดเจนและเป็นเมืองที่ไทยมีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว
ยังไม่มีวัคซีน ต้องดูแลตัวเอง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไปฯ กล่าวว่า เชื้อโคโรน่าไวรัส ยังไม่มียารักษาหรือวัคซีนป้องกัน ดังนั้น ต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงกินร้อนช้อนกลางล้างมือ และยิ่งเป็นนักท่องเที่ยว หากเป็นหวัดก็ต้องไปพบแพทย์ และบุคลากรก็ต้องแต่งตัวให้รัดกุมขณะปฏิบัติหน้าที่ หาก ไอ จาม ก็หมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงการนำมือไปขยี้ตา ขยี้จมูก ขยี้ปากซึ่งมีเนื้อเยื่อบุอยู่
ตั้งแต่ 28 ม.ค. คัดกรองนักท่องเที่ยวจีนทั้ง 100%
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินการที่ด่านควบคุมโรค 5 แห่ง ได้คัดกรองผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ใน 31 เที่ยวบิน จำนวน 21,522 ราย คัดกรองเพิ่มจากกว่างโจ ฉางชุน เพิ่มอีก 29 เที่ยวบิน แต่ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.เป็นต้นไป จะมีการคัดกรองนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศจีนทั้งหมด 100% โดยนักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับคำแนะนำเรื่องโรค นอกจากนี้ยังจะร่วมมือกับทุกสายการบินที่เข้ามาในไทยให้มีการตรวจตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องจากต้นทางหากพบผู้ป่วยก็จะไม่ให้ขึ้นเครื่องบินมา และหากไม่มีความจำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงไปประเทศจีน
พัฒนาห้องแล็บ ตรวจยืนยันเชื้อได้ใน 3 ชั่วโมง
เมื่อถามถึงกรณีพบผู้ป่วยที่ประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดน ต้องมีการตรวจคัดกรองอย่างไร นพ.สุขุม กล่าวว่า ทุกคนต้องป้องกันตัวเองให้แข็งแรง การป้องกันเบื้องต้นก็เหมือนเชื้อไวรัสทั่วไป ต้องร่วมมือกันกับสายการบินในการตรวจคัดกรองตั้งแต่ก่อนออกจากประเทศไทย เราต้องดู ทั้งคนนอกและคนใน โดยทางกระทรวงสาธารณสุขต้องไปช่วยสนับสนุนในการตรวจผู้โดยสาร และขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้พัฒนาห้องแล็บให้สามารถตรวจยืนยันเชื้อได้ภายใน 3 ชั่วโมง และที่สำคัญ ตราบใดที่ยังไม่มีการแพร่ระบาด เป็นเพียงพบจากผู้ที่เดินมาจากต่างประเทศ ความเสี่ยงเกิดโรคก็ยังถือว่าต่ำ ส่วนที่มีความกังวลเรื่องการแพร่เชื้อ บริเวณท่าเรือที่มาจากจีนนั้น โอกาสถึงแม้จะไม่เป็นศูนย์ แต่ก็มีโอกาสแพร่เชื้อน้อยมาก
2020-01-28 09:46:00Z
https://news.google.com/__i/rss/rd/articles/CBMiNWh0dHBzOi8vd3d3LnRoYWlyYXRoLmNvLnRoL25ld3MvbG9jYWwvYmFuZ2tvay8xNzU4Mjk40gEA?oc=5
0 Comments:
Post a Comment