ขอบคุณภาพ : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
"บิ๊กแป๊ะ" นำทัพขึ้น ฮ. ลงพื้นที่ลพบุรี พร้อมเรียกประชุมตำรวจฝีมือดี สั่งล่าโจรเหี้ยมยิงปล้นร้านทอง เบื้องต้นทราบเส้นทางคนร้ายหลบหนี ส่งมือสืบ 200 นายจากหลายหน่วยไล่ล่า ย้ำหากสู้พร้อมวิสามัญ เชื่อไม่นานจับตัวได้แน่ ขณะที่ "วิระชัย" ยันคนร้ายมีความเชี่ยวชาญและชำนาญการใช้อาวุธ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ม.ค.63 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เผยว่า จากการตรวจสอบ พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุปล้นทองพบว่า คนร้ายมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธในการเข้าก่อเหตุ ซึ่งมีไม่กี่หน่วยงานที่มีความชำนาญด้านนี้ อาทิ หน่วยรบพิเศษในหน่วยงานราชการ หรือ เอกชน ที่อยู่ในหน่วยงานเฉพาะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดีเอ็นเอ เพื่อไปเทียบเคียงให้กับอัตลักษณ์ของคนร้าย รวมถึงลักษณะท่าทาง การแต่งตัวของคนร้าย รวมถึงชุดที่สวมใส่ นอกจากนี้สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถระบุรถและยี่ห้อได้อย่างชัดเจนแล้ว หลังจากนี้จะทำการไล่ดูกล้องวงจรปิดย้อนหลังในห้างสรรพสินค้า เพราะเชื่อได้ว่าคนร้ายได้มีการมาดูลาดเลาไว้ก่อนตัดสินใจลงมือก่อเหตุอย่างแน่นอน
จากนั้นช่วงเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงจอดที่สนามกีฬาจังหวัดลพบุรี ก่อนเรียกประชุมที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กก.2 จ.ลพบุรี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันโดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ตำรวจสืบสวนภาค 1 สืบสวนภูธรจังหวัดลพบุรี สืบสวนสภ.เมืองลพบุรี เข้าร่วมประชุมเพื่อแบ่งหน้าที่กันทำงานซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ก่อนเดินทางออกไป
ตลอดทั้งวันตำรวจได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่น ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี สระบุรี และพื้นที่รอยต่อ มาสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมชอบเล่นปืนและยิงปืน เนื่องจากคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุชิงทอง ใช้อาวุธปืนและแต่งกายแบบวัยรุ่น
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผย อดีตตำรวจสืบสวนรายหนึ่ง ว่าคนร้ายแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นมีราคา คนร้านอายุหน้าจะอยู่ประมาณ 30-35 ปี ส่วนอาวุธปืนที่ใช้เป็นดูแล้วเป็นยี่ห้อ CZ รุ่นชาโดว์ เพราะรุ่นนี้จะมีลำกล้องเป็นเกลียวโผล่ออกมาจากปลายกระบอกปืนเพื่อใส่ "ไซเลนเซอร์" หรือกระบอกเก็บเสียง ส่วน "ไซเลนเซอร์" ตัวนี้ราคาค่อนข้างสูง สามารถเก็บเสียงได้ 70 % สรุปอาวุธที่คนร้ายใช้ราคาหลักแสนขึ้น ไม่ใช่คนร้ายที่ก่อเหตุทั่วไปอย่างแน่นอน คนร้ายใช้ยุทธวิธีการยิงแบบ IPSC หรือ ชู๊ตติ้ง กลุ่มคนพวกยิงแข่งขันที่มีเป้า จึงมีการยิงและฝึกมานานจนชำนาญมาก
ส่วนคนร้ายที่เข้ามาก่อนเหตุใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี-ท่าวุ้ง ทั้งมาก่อเหตุและหลบหนี ซึ่งเส้นทางนี้ สามารถไปยังอำเภอหนองโดน อำเภอบ้านหมอ จ.สระบุรี ซึ่งตำรวจสืบสวนได้ลงพื้นที่เก็บภาพวงจรปิดตามเส้นทางทั้งขามาก่อเหตุและหลังก่อเหตุ โดยพบภาพชายต้องสงสัย ลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายที่ก่อเหตุห่างไปประมาณ 8 กิโลเมตร แต่เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนภาพจึงยังไม่ชัดเจน
ด้าน พล.ต.ท.อำพล ผบช.ภ.1 พล.ต.ต. ณัฐพล ศุภระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี และนายตำรวจอีกหลายนาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้า สภ.เมือง ลพบุรี ถึงกรณี เส้นทางหลบหนีของคนร้ายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเส้นทางอย่างละเอียด เบื้องต้นคนร้ายได้หลบหนีไปทางเส้นทางสายบายพาส ลพบุรี-สระบุรี ไปตามเส้นทางแยกโพธิ์เก้าต้น อ.เมือง ลพบุรี มุ่งหน้า อ.ท่าวุ้ง ซึ่งอาจจะใช้เส้นทางสิงห์บุรี-ลพบุรี หรือไม่นั้นกำลังให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ แต่มีช่วงที่ขาดหายไป เนื่องจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางมีน้อยมาก หากประชาชนท่านใดมีกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพคนร้ายได้ขอให้นำหลักฐานช่วงที่บันทึกยานพาหนะและคนร้ายแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน ซึ่งยังคงมีรางวัลนำจับกว่า 3 แสนบาทแล้ว
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากนครบาล จากกองปราบปราม จากภาค1 และตำรวจงานสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี กว่า 200 นาย กระจายลงพื้นที่รอยต่อจังหวัดลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี และตามพื้นที่ที่คาดเป็นเส้นทางสุดท้ายที่คนร้ายหลบหนี ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ พยายามกันอย่างเต็มความสาสมารถเพื่อจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้ เชื่อว่าไม่นานก็จะสามารถจับกุมตัวได้อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าหากคนร้ายมีการขัดขืนต่อ สู้ก็พร้อมวิสามัญได้ทันที.
อ่านเพิ่มเติม...
2020-01-11 10:00:00Z
https://news.google.com/__i/rss/rd/articles/CBMiNWh0dHBzOi8vd3d3LnRoYWlyYXRoLmNvLnRoL25ld3MvbG9jYWwvY2VudHJhbC8xNzQ1MTk40gEA?oc=5
0 Comments:
Post a Comment