กรมป่าไม้ร่วม ส.ป.ก.ลุยตรวจรังวัดที่ดิน “เขาสนฟาร์ม” ของ “ส.ส.เอ๋-ปารีณา” รอบ 2 ขณะที่ “วีระ” จับมือ “ทนายอัจฉริยะ” ลุยจับตาเจ้าหน้าที่ทำงาน ลั่นถ้าตรวจสอบแล้วไม่ผิด ยินดีกราบเท้า “ศิระ เจนจาคะ”
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 พ.ย.62 ที่สำนักงานป่าไม้จ.ราชบุรี ถนนวรเดช เขตเทศบาลเมืองราชบุรี นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ นายวัฒนา มังธิสาร ผอ.สำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน ส.ป.ก. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร และนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมเจ้าหน้าที่คณะทำงานได้เข้าร่วมประชุมวางแผนการทำงานในการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน “เขาสนฟาร์ม” ของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ตั้งอยู่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี อีกครั้ง หลังจากการตรวจครั้งแรกพบว่ามีพื้นที่รุกป่าจำนวน 46 ไร่ และทางกรมป่าไม้เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ถือครอง กระทั่งนางสาวปารีณา ทำหนังสือถึงเลขาธิการ ส.ป.ก.และอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อให้ตรวจสอบพื้นที่ใหม่นั้น
หลังจากประชุมเสร็จสิ้น นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ประชุมคณะทำงานเพื่อดำเนินการตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง โดยจะทางป่าไม้จะร่วมกับ ส.ป.ก.เข้าตรวจสอบเขตพื้นที่จริงจึงจะสรุปได้ว่าตรงหรือไม่ จากที่ ส.ส.ปารีณาได้ส่งหนังสือให้มีการรังวัดใหม่อีกครั้ง ซึ่งการตรวจครั้งแรกทาง ส.ป.ก.ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่มารังวัด ซึ่งในวันนี้จะดำเนินการให้ชัดเจน บางอย่างไม่สามารถตอบได้เกรงว่าจะผิดพลาด จึงขอให้ลงพื้นที่ก่อนจึงจะสรุปได้ ตอนนี้ยังยืนยันตัวเลขที่ 46 ไร่ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วมีผลออกมาอย่างไรก็จะสรุปอีกที ในส่วนของหน่วยงานอื่นก็จะดำเนินการไปไม่เกี่ยวกับทางป่าไม้ และ สปก.
ด้านนายวัฒนา มังธิสาร ผอ.สำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน ส.ป.ก. กล่าวว่า พื้นที่ของ ส.ส.ปารีณานั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขต ส.ป.ก. โดย ส.ป.ก.จะร่วมกับป่าไม้เข้ารังวัดอย่างละเอียด ทาง ส.ป.ก.จะตรวจสอบดูเส้นเขตพื้นที่ดังกล่าวว่าจริงเท็จอย่างไร แต่ทั้งนี้ในการเข้าทำงานอาจจะมีอุปสรรคบ้างเพราะเป็นพื้นที่ป่าด้วย ถ้าไม่มีปัญหาอะไรช่วงเย็นจะสรุปได้ แต่ถ้าติดขัดมีปัญหาก็จะใช้เวลาประมาณ 2 วัน
ภายหลังจากคณะทำงานประชุมเสร็จสิ้น นายวัฒนา มังธิสาร ผอ.สำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน สปก. ได้นำเจ้าหน้าที่ สปก.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี ลงพื้นที่ไปรวมตัววางแนวทางการทำงานบริเวณวัดมะขามเอน หมู่ 7 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับพื้นที่เขาสนฟาร์มของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี โดยได้กางแผนที่ดาวเทียม เพื่อหาหลักเขตที่ 60 และ 70 ซึ่งเป็นเขตป่าไม้เดิม เป็นแนวในการยึดโยงตรวจพื้นที่อย่างละเอียด
ทั้งนี้ นายวัฒนา มังธิสาร กล่าวว่า วันนี้จะตรวจพื้นที่รวมๆ เท่านั้น ส่วนฟาร์มไก่ก็เป็นเรื่องของฟาร์มไก่ เราจะเคลื่อนที่ตรวจไปเรื่อยๆ ตามจุดที่แผนที่ระบุ ทั้งสปก.และป่าไม้จะใช้ข้อมูลอันเดียวกัน เราไม่สนใจใครเป็นใคร จะตรวจตรวจสอบทั้งหมด เราทำงานร่วมกัน เพื่อเก็บข้อมูลนำไปสังเคราะห์จะเป็นการตอบรับทางวิชาการ
จากนั้นนำคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบหลักเขตที่ 60 หลักเขตป่าไม้เดิม อยู่ในพื้นที่หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง โดยมีนายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ ตามมาสมทบเพื่อควบคุมการทำงาน โดยการตรวจสอบใช้เครื่อง RTK-GNSS เนตเวิร์ค 2 ความถี่ ซึ่งเป็นเครื่องรับสัญญาณตำแหน่งจากดาวเทียมกำหนดพิกัด มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ตั้งหาพิกัดจนพบหลักเขตที่ 60 ซึ่งฝังดินอยู่ในพงหญ้าบริเวณปากทางสี่แยกริมถนนสายศาลเจ้ามะขามเอน-บ้านหนองกลางเนิน หมู่ 9 ต.ท่าเคย และได้ทำการบันทึกรายละเอียด ก่อนเดินทางไปตรวจสอบหลักเขตที่ 70 เขตป่าไม้เดิม เพื่อนำไปสังเคราะห์และยึดโยง ในการเข้าตรวจสอบในจุดอื่นๆ ก่อนจะนำผลไปสรุปอย่างเป็นทางการต่อไป
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปขั่น และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางไปที่ สภ.จอมบึง จ.ราชบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีที่นายวีระได้เข้าแจ้งความกับนางสาวปารีณาบุกรุกป่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นเดินทางไปที่บริเวณหน้าฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง หลังทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ สปก. และป่าไม้ จ.ราชบุรี จะเข้าตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง
นายวีระ กล่าวว่า วันนี้เข้ามาสอบถามความคืบหน้าของคดี จากหลักฐานที่มีนั้นพบว่า นางสาวปารีณา มีความผิดชัดเจน เป็นการบุกรุกป่าซึ่งใครจะยื่นมือเข้ามาช่วยก็ต้องติดคุกด้วย ตนไม่อยากให้คดีนี้กล่าวเป็นคดีที่ไม่มีความผิดทางอาญา แต่แค่ยึดพื้นที่คืนก็จบ เพราะที่ผ่านมามีชาวบ้านที่แค่เข้าไปหาของป่าก็ติดคุก ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใดๆ แต่นางสาวปารีณา เป็น ส.ส. รู้ข้อกฎหมายมากว่า ทำผิดกับมีอภิสิทธิ์ทุกอย่าง ตนไม่อยากให้มีคำว่าสองมาตรฐาน และอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเหมือนประชาชนทั่วไป
ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า นางสาวปารีณา ไม่มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกร จึงไม่สามารถครอบครองที่ดินได้ และที่มาวันนี้ก็เพื่อมาดูว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบที่ดินอีกรอบว่าจะมีทั้งหมดกี่ไร่ และถ้าตรวจสอบแล้วบอกไม่ผิด ตนยินดีกราบเท้านายศิระ เจนจาคะ ส.ส.หลักสี่ กทม. แต่ถ้าผิดตนขอท้าให้นายศิระ ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ได้หรือไม่ เพราะจากหลักฐานที่มีมั่นใจว่านางสาวปารีณาผิดชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ต่อมา นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ ได้เดินทางเข้าไปที่หน้าฟาร์มไก่ และพบกับนายอัจฉริยะที่มาคอยตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่า “ผมคิดว่าวันนี้ ป่าไม้ต้องเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่ ส.ป.ก.เป็นเจ้าภาพ ดังนั้นควรเข้าแจ้งความเลยไม่ใช่ว่าต้องมารอให้มันชัดเจน หรือว่าจะช่วยให้มันลดลงจาก 46 ไร่ เหลือ 25 ไร่ ทำไมป่าไม้ไม่ดำเนินการเหมือนชาวบ้านทั่วไป เหมือนอย่างที่ป่าไม้ ได้ดำเนินการอย่างกับชาวบ้านทั่วไป ซึ่งชุดพยัคฆ์ไพร ได้ดำเนินการจับกุมชาวบ้านทั่วไป แต่คุณปารีณา มีฟาร์มไก่เป็นร้อยๆ ไร่ ซึ่งเห็นชัดเจน มีทั้งลูกน้อง คนงานที่อยู่ในฟาร์มไก่ แต่กับไม่ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งที่คุณปารีณา ถือทำความผิดซึ่งๆหน้า ขอให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา” พร้อมกับเหน็บนายธวัชชัยว่า ระยะเวลาการดำเนินการให้เวลา 72 ชั่วโมง และจะติดตามดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ถ้าพบว่ามีการช่วยเหลือให้กับผู้กระทำความผิด จะแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ด้วย
ขณะที่นายธวัชชัย ตอบกลับว่า “ไม่มีใครช่วยใครหรอกครับ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น มีความผิดอย่างก็ว่าตามนั้น”
2019-11-28 09:23:00Z
https://news.google.com/__i/rss/rd/articles/CBMiNWh0dHBzOi8vd3d3LnRoYWlyYXRoLmNvLnRoL25ld3MvbG9jYWwvY2VudHJhbC8xNzEzODg20gEA?oc=5
0 Comments:
Post a Comment