เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ร.ต.อ.ปกรณ์ ชัยพรหม รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลำปำ อ.เมือง จ.พัทลุง รับแจ้งมีคนถูกอาวุธสงครามยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 324 หมู่ที่ 7 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง ริมถนนสายลำปำ – ทะเลน้อย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.โชตวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล และ จนท.พิสูจน์หลักฐาน ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีดำ ทะเบียน ขข.6274 ภูเก็ต ตกลงไปในริมถนนในสภาพจอดติดเครื่อง ไฟหน้ายังส่องสว่าง สภาพรถเก๋งมีรอยกระสุนที่บริเวณประตูด้านหลังด้านขวา 16 รู ประตูหน้าด้านขวา 9 รู ขอบประตูด้านหน้า 2 รู กระจกหลังด้านขวา 13 รู ขอบประตูหน้าด้านล่างขวามือ 3 รู และกระจกหน้าอีก 4 รู ภายในรถพบศพนายนิรันดร์ ชูรักษ์ อายุ 40 ปี “ดอน เลน้อย” อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ที่ 8 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ตามลำตัวถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.รวม 5 แผล ส่วนเพื่อนผู้ตาย 3คนสามารถเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีคมกระสุนไปได้อย่างหวุดหวิดและ ตร.ยังพบปลอกกระสุนกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ริมถนนสาย 4 ปลอก
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมเพื่อนๆอีก 3 คน ได้ขับรถเก๋ง ออกจากตัวเมืองพัทลุง เพื่อมุ่งสู่พื้นที่ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 3 คน ขับรถกระบะโหลดเตี้ย โดยคนร้ายที่นั่งอยู่ด้านหลังรถกระบะและอีก 1คนที่นั่งในรถ ได้ใช้อาวุธปืนอูซี่ ขนาด 9 มม.ยิงถล่มใส่รถเก๋ง ทำให้รถเก๋งเสียหลักพุ่งลงไปในริมถนน เป็นเหตุให้คนขับรถเก๋งเสียชีวิตคาที่ และยังมีผู้โดยสารอีก 3 คน ที่วิ่งหนีวิถีกระสุนหลบหนีไปได้ พล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้สั่งการให้ เร่งตรวจสอบผู้รอดชีวิตตาม รพ.ต่างๆ เพราะเชื่อว่าน่าจะถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเข้าไปรักษาตัวในสถานพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่ง ในเบื้องต้นยังไม่พบผู้เข้ารับการรักษาพยาบาลแต่อย่างใด ด้านนายสมพงศ์ บิดาผู้ตาย ให้การว่า บุตรชายไปทำงานนอกบ้าน นานๆจะกลับมาบ้านสักครั้งและมีที่อยู่ไม่แน่นอน
ขณะที่พ.ต.อ.โชตวัฒน์ เหลืองวิลัย พร้อมชุดสืบสวนพัทลุง และชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ลำปำ ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่พื้นที่เขตเทศบาลเมืองพัทลุง จนถึงที่เกิดเหตุ พบว่ารถยนต์เก๋งผู้เสียชีวิตได้วิ่งข้างถนนรถไฟในช่วงเวลา 04.10 น. พร้อมกับมีรถยนต์กระบะแค็ป สีเขียว ไล่ตามประกอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบรถยนต์กระบะส่วนประเด็นการสังหารนั้นในเบื้องต้นคาดว่า น่าจะมาจากประเด็นความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ หรือขัดแย้งธุรกิจบางอย่าง ซึ่งทาง ตร.จะได้เร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.
2019-09-05 09:25:00Z
https://www.dailynews.co.th/crime/729919
0 Comments:
Post a Comment