“ธรรมนัส” นำทีม ส.ส.พลังประชารัฐ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่น้ำท่วม อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวที่ลูกชายวัย 20 ถูกไฟฟ้าช็อตขณะช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำ
วันนี้ (1 ก.ย. 2562) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะทำงาน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนโพดุล ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ถนนทั้งเส้นหลักและเส้นรองถูกน้ำท่วมใช้การไม่ได้
ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะได้นั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่น้ำท่วมบริเวณ อ.บ้านไผ่ พร้อมรับฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า น้ำที่ อ.บ้านไผ่ ทยอยไหลลงสู่แก่งละว้าแล้ว โดยก่อนที่จะมีพายุโพดุล มีปริมาณน้ำอยู่ประมาณ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่เพียง 1 คืนจากเมื่อวานนี้ (31 ส.ค. 2562) ปริมาณน้ำในแก่งละว้าเพิ่มขึ้นเป็น 45 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือเป็นพื้นที่รับน้ำหลักในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำชี ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด บริเวณความสูงของระดับน้ำในลำน้ำชี เมื่อเทียบกับความสูงของตลิ่งมีระยะห่างกันอยู่ประมาณ 3 เมตร ยังสามารถรองรับน้ำได้
จุดแรก ร.อ.ธรรมนัสได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลบ้านไผ่ เพื่อมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือประชาชน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บจากการช่วยเหลือน้ำท่วม รวมทั้งให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือแก่ นางศิลากร จันโทแพง ซึ่งลูกชายวัย 20 ปี เสียชีวิตจากไฟฟ้าช็อตขณะช่วยเพื่อนบ้านขนของ (อ่านข่าวก่อนหน้า พ่อแม่ใจสลาย ลูกชายช่วยเพื่อนบ้านขนของหนีน้ำท่วม แต่กลับถูกไฟช็อตดับ) ขณะเดียวกันได้มอบนามบัตรส่วนตัวให้สำหรับติดต่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ยังศูนย์บัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากพายุโพดุล บริเวณหน้าโรงเรียนกรุณาศึกษา อ.บ้านไผ่ พร้อมระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน จึงสั่งการให้ลงมาติดตามสถานการณ์ พร้อมฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ช่วยเหลือประชาชน
“สถานการณ์ที่ อ.บ้านไผ่ เวลานี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ถนนทุกสายสามารถใช้การได้ตามปกติ แต่สิ่งที่ต้องดูแลหลังจากนี้คือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งเรื่องบ้านเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า พืชผลทางการเกษตร ตลอดจนสัตว์เลี้ยงได้รับความเสียหายซึ่งทางรัฐบาลต้องดูแล ส่วนกรณีมีประชาชนถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต ก็ได้เดินทางไปพบกับแม่และญาติผู้เสียชีวิตแล้ว ขณะที่ทางจังหวัดช่วยเรื่องค่าจัดการศพ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการไปแล้ว”
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์น้ำหลากที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากพายุทำให้ฝนตกหนัก ถือเป็นเหตุสุดวิสัย หลังจากนี้ต้องไปศึกษาว่าเหตุใดการระบายน้ำจึงช้า เพื่อแก้ไขไม่ให้เหตุการณ์ซ้ำซ้อน ส่วนเรื่องการเยียวยาพื้นที่การเกษตร เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่เกษตรที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเร่งเยียวยาตามกฎหมายต่อไป
จากนั้นเดินทางต่อมายังสะพานขาว ซึ่งมีชาวบ้านจากชุมชนสะพานขาว หนีน้ำมาอาศัยอยู่หลายครอบครัว มีทั้งเด็กและคนแก่ ซึ่งชาวบ้านขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ เนื่องจากน้ำมาเร็วไม่สามารถขนย้ายสิ่งของใดๆ ออกมาได้เลย พังเสียหายทั้งหมด ร.อ.ธรรมนัส จึงได้มอบหมายให้ทางจังหวัดเข้ามาสำรวจความเสียหายเพื่อเร่งช่วยเหลือต่อไป ขออย่าเป็นห่วงและทุกคนต้องสู้ไปด้วยกัน ก่อนจะมอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องประชาชนชาว อ.บ้านไผ่ จำนวน 2,000 คน ที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ พร้อมบอกกับประชาชนว่า “เราต้องสู้กับธรรมชาติ สู้ไปด้วยกัน รัฐบาลจะไม่ทิ้งพี่น้องประชาชน และไม่ปล่อยให้ท่านอยู่ตามลำพังอย่างแน่นอน” ภายหลังลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เสร็จสิ้น ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางไปยัง ต.แวงน่าง อ.เมืองมหาสารคาม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย.
(ภาพจากเฟซบุ๊ก พรรคพลังประชารัฐ)
อ่านเพิ่มเติม...
2019-09-01 12:19:00Z
https://www.thairath.co.th/news/politic/1650798
0 Comments:
Post a Comment