Friday, February 7, 2020

รัฐบาลแจงวุ่น! ทำไม? ขายหน้ากากอนามัย แพงกว่าที่อื่น ลั่น แจกทุกคนไม่ไหว - ข่าวสด

รัฐบาลแจงวุ่น! ทำไม? ขายหน้ากากอนามัย แพงกว่าที่อื่น ลั่น แจกทุกคนไม่ไหว - ข่าวสด

รองโฆษกรัฐบาล แจงเหตุจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงกว่าองค์การเภสัช ในวันนี้เพราะเป็นการผลิตใหม่บวกค่าขนส่งที่จำหน่ายทั่วประเทศ

เมื่อเวลา 16.25 น.วันที่ 7 ก.พ.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัยของทำเนียบรัฐบาลมีราคาที่สูงกว่าราคาต้นทุนจริง ว่า หน้ากากอนามัยที่จำหน่ายที่ชิ้นละ 2.50 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่ องค์การเภสัชกรรมจำหน่ายนั้นมีเหตุผลที่มาที่ไป คือ ที่องค์การเภสัชกรรมสามารถจำหน่ายหน้ากากอนามัยออกมาจำหน่ายได้ ในราคาชิ้นละ 1 บาท

เนื่องจากเป็นการปล่อยหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ในสต๊อกเดิมก่อนที่จะเกิดวิกฤติโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา และที่องค์การเภสัชกรรม ตัดสินใจนำสต๊อกหน้ากากออกมาจำหน่ายได้เพราะมีความมั่นใจว่าหน้ากากอนามัยจะไม่มีการขาดแคลนแล้ว ทั้งนี้องค์การเภสัชกรรมมีหน้าที่

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ในการดูแลเรื่องการจำหน่ายจ่ายแจกหน้ากากอนามัยให้เพียงพอกับสถานพยาบาลต่างๆ จึงทำให้ก่อนหน้านี้ไม่สามารถปล่อยสต๊อกออกมาได้ แต่เมื่อวันนี้มีความมั่นใจแล้วจึงได้นำออกมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจึงได้นำสินค้าในสต๊อกเก่าออกมาจำหน่ายจึงสามารถขายได้ในราคา 1 บาทต่อชิ้น

“คำถามที่ว่าทำไมรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จึงจำหน่ายในราคาชิ้นละ 2.50 บาท ขอชี้แจงว่าวันนี้ต้นทุนในการผลิตมีราคาที่สูงขึ้นบวกกับกระทรวงพาณิชย์จะมีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยไปยังร้านค้าธงฟ้า 120,000 แห่งทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นในการจัดจำหน่ายจะต้องมีการบวกค่าขนส่งต่างๆเข้าไปด้วย

ราคาที่จำหน่ายจึงจำเป็นจะต้องเป็นราคามาตรฐานที่จำหน่ายทั่วประเทศ ไม่สามารถที่จะขายในกรุงเทพฯ ราคาถูกกว่าต่างจังหวัดได้ การคำนวณราคาจึงต้องบวกกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกอย่าง จึงตกอยู่ที่ชิ้นละ 2.50 บาท ยืนยันว่าไม่ได้มีการบวกเพื่อทำกำไร เพียงแต่ต้องคำนวณราคาให้ครอบคุ้มกับต้นทุนในการผลิต” น.ส.รัชดากล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อสงสัยว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่แจกจ่ายหน้่กากอนามัยซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นขณะนี้ให้กับประชาชนแทนการจำหน่าย น.ส.รัชดา กล่าวว่า วันนี้ความต้องการในการใช้หน้ากากอนามัยไม่ใช่เพียงแค่คนละ 1 ชิ้น เพราะแต่ละครอบครัวต่างมีความจำเป็นที่ไม่เท่ากัน แล้วแต่สมาชิกของครอบครัว

จึงต้องชี้แจงตรงๆว่า รัฐบาลอาจไม่สามารถจะจ่ายได้ตรงกับความต้องการของประชาชน แต่ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้มีการจำหน่ายในจุดต่างๆทำกันอย่างเต็มที่ แต่จะให้แจกแล้วเพียงพอกับความต้องการของประชาชนทุกคนที่มีความต้องการที่แตกต่างกันก็อาจจะไม่ไหว

รัฐบาลก็พยายามที่สุดที่จะให้ประชาชนได้เข้าถึงหน้ากากอนามัยในราคาที่ประหยัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และวันนี้มาตรการที่ออกมาในการกำหนดให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมก็เชื่อมั่นว่าปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยจะคลี่คลายลงโดยเร็ว

“ ยืนยันว่าวันนี้หน้ากากอนามัยมีเพียงพอ แต่ต้องยอมรับว่าเหตุผลหลักที่ทำให้สินค้าหายออกไปจากประเทศไทยส่วนหนึ่งคือการส่งออกไปยังต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุม หากมีการส่งออกนอกประเทศเกิน 500 ชิ้น

ก็จำเป็นต้องขออนุญาตกระทรวงพาณิชย์จึงสามารถเข้าไปควบคุมปริมาณสินค้าที่มีการเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศได้ และถ้าพบเห็นว่าเป็นจำนวนที่มากเกินไปก็จะไม่อนุญาต ดังนั้นเมื่อสินค้าดังกล่าวออกนอกประเทศไม่ได้ก็จะทำให้มีสินค้าเพียงพอ”น.ส.รัชดากล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การจำหน่ายหน้ากากอนามัยนั้นไม่ได้มีที่เฉพาะทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงพานิชย์ เท่านั้น เรายังมีการจำหน่ายที่ร้านธงฟ้าอีก 120,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องบวกค่าขนส่งจึงขอยืนยันอีกครั้งว่าเราไม่ได้หวังผลกำไร

สำหรับการจำหน่ายที่ร้านธงฟ้านั้นก็จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ในราคาชิ้น 2.50 บาททั่วประเทศ และหลังจากนี้หากการกระจายสินค้ามีเพียงพอก็สามารถที่จะกระจายสินค้าไปยังร้านขายยาปกติได้ ส่วนจะเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อไหร่คงตอบยาก

แต่เมื่อความต้องการจากต่างประเทศลดน้อยลง อีกทั้งโรงงานที่ผลิตในประเทศจีนสามารถกลับมาเปิดได้ ความจำเป็นในการส่งออกนอกประเทศก็น่าจะลดลง สถานการณ์ก็น่าจะคลี่คลายไปได้ในทิศทางที่ดี ขอให้ทุกคนสบายใจได้


Let's block ads! (Why?)



2020-02-07 10:13:00Z
https://news.google.com/__i/rss/rd/articles/CBMiNGh0dHBzOi8vd3d3LmtoYW9zb2QuY28udGgvYnJlYWtpbmctbmV3cy9uZXdzXzM1NDA3NDjSAQA?oc=5

อ่านต่อไป >>>>


Share:

Related Posts:

0 Comments:

Post a Comment