เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราคาจำหน่ายหน้ากากอนามัยที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ชิ้นละ 2.50 บาท สูงกว่าราคาต้นทุนจริง ว่า การที่ทำเนียบรัฐบาลนำหน้ากากอนามัยมาจำหน่ายให้ประชาชน ในราคาชิ้นละ 2.50 บาท ขณะที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จำหน่ายในราคาชิ้นละ 1 บาทนั้น เนื่องจาก กรณีของ อภ.เป็นการนำหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ในสต๊อกเดิมก่อนเกิดวิกฤติโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา มาจำหน่าย และการที่อภ.ตัดสินใจนำสต๊อกหน้ากากออกมาจำหน่ายได้ เพราะมีความมั่นใจว่าหน้ากากอนามัยจะไม่ขาดแคลนแล้ว ซึ่งอภ.มีหน้าที่ดูแลเรื่องการจำหน่ายจ่ายแจกหน้ากากอนามัยให้เพียงพอกับสถานพยาบาลต่างๆ จึงทำให้ก่อนหน้านี้ไม่สามารถปล่อยสต๊อกออกมาได้ แต่เมื่อ อภ.มั่นใจแล้ว จึงนำออกมาจำหน่ายในราคาชิ้นละ 1 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
“คำถามที่ว่าทำไมรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จึงจำหน่ายในราคาชิ้นละ 2.50 บาท ขอชี้แจงว่าวันนี้ต้นทุนในการผลิตมีราคาที่สูงขึ้น บวกกับกระทรวงพาณิชย์จะมีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยไปยังร้านค้าธงฟ้า 120,000 แห่งทั่วประเทศการ ดังนั้นในการจัดจำหน่ายจะต้องมีการบวกค่าขนส่งต่างๆ เข้าไปด้วย ราคาที่จำหน่ายจึงจำเป็นจะต้องเป็นราคามาตรฐานที่จำหน่ายทั่วประเทศ ไม่สามารถที่จะขายราคาในกรุงเทพฯ ราคาถูกกว่าต่างจังหวัดได้ การคำนวณราคาจึงต้องบวกกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกอย่าง จึงตกอยู่ที่ชิ้นละ 2.50 บาท ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการบวกเพื่อทำกำไร จึงต้องคำนวณราคาให้ครบคุ้มกับต้นทุนในการผลิต”รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสงสัยที่ว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่แจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนแผนการจำหน่าย น.ส.รัชดา กล่าวว่า รัฐบาลอาจไม่สามารถจะจ่ายได้ตรงกับความต้องการของประชาชน แต่ได้มีการจำหน่ายในจุดต่างๆ ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ทำกันอย่างเต็มที่ วันนี้มาตรการที่ออกมาในการกำหนดให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ตนเชื่อมั่นว่าปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยจะคลี่คลายลงโดยเร็ว
“หน้ากากอนามัยมีเพียงพอ แต่ต้องยอมรับว่าเหตุผลหลักที่ทำให้สินค้าหายออกไปจากประเทศไทยนั้น ส่วนหนึ่งคือการส่งออกไปยังต่างประเทศ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุม หากมีการส่งออกนอกประเทศเกิน 500 ชิ้น จำเป็นต้องขออนุญาต กระทรวงพาณิชย์จึงสามารถเข้าไปควบคุมปริมาณสินค้าที่มีการเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศได้ และจะช่วยทำให้มีสินค้าเพียงพอ”
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การจำหน่ายหน้ากากอนามัยนั้นไม่ได้มีที่เฉพาะทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงพานิชย์ เท่านั้น เรายังมีการจำหน่ายที่ร้านธงฟ้าอีก 120,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องบวกค่าขนส่งจึงขอยืนยันอีกครั้งว่าเราไม่ได้หวังผลกำไร สำหรับการจำหน่ายที่ร้านธงฟ้านั้นก็จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.นี้ เป็นต้นไป ในราคาชิ้น 2.50 บาททั่วประเทศ และหลังจากนี้หากการกระจายสินค้ามีเพียงพอก็สามารถที่จะกระจายสินค้าไปยังร้านขายยาปกติได้ ส่วนจะเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อไหร่นั้น คตอบยาก แต่เมื่อความต้องการจากต่างประเทศลดน้อยลง อีกทั้งโรงงานที่ผลิตในประเทศจีนก็สามารถกลับมาเปิดได้ ความจำเป็นในการส่งออกนอกประเทศก็ลดลง ก็น่าจะคลี่คลายไปได้ในทิศทางที่เร็ววัน ขอให้ทุกคนสบายใจได้.
2020-02-07 10:06:00Z
https://news.google.com/__i/rss/rd/articles/CBMiK2h0dHBzOi8vd3d3LmRhaWx5bmV3cy5jby50aC9wb2xpdGljcy83NTYzNDjSAQA?oc=5
0 Comments:
Post a Comment