"ทวี ไกรคุปต์"พ่อ "ปารีณา"ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ผมไม่ได้แย่งไมค์อธิบดีกรมป่าไม้ เผยเพิ่งรู้ว่าลูกสาวโอนชื่อที่ดินเป็นของตัวเอง
นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยผ่านรายการ "ถามตรงๆ กับจอมขวัญ" ว่า จริงๆ ผมไม่ได้จะไปกรมป่าไม้หรอก และจะรอฟังข่าวก่อน แต่นักข่าวก็โทรมาตลอด ก็เลยไปกรมป่าไม้ ปารีณาไม่รู้ เพราะถ้ารู้ก็ไม่อยากไป เขาไม่อยากให้มาแถลงข่าวอะไร ผมโทรหาเขาก็ปิดโทรศัพท์ โทรก็ไม่รับสายเลย โดยเขาบอกมาตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วว่า ไม่อยากให้พูด เหมือนไปกดดันสังคม ไปกดดันเจ้าหน้าที่ ให้เขาเสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพูดกัน และเขาไม่ได้บอกว่า จะพูดอะไร เพราะเขาอยู่บ้านทรงไทยที่ริมน้ำ ส่วนผมอยู่อีกฝั่งของเขาสน เลี้ยงวัว
ส่วนที่เห็นในภาพว่าเหมือนแย่งไมค์นั้น ตอนแรกผมไปฟังเฉยๆ ไม่ได้คิดจะถาม เดี๋ยวจะกลายเป็นปะทะ แต่มีคนถามขึ้นมา ผมอยู่พูดปากเปล่า ผมยืนพูด และก็มีคนเอาไมค์ลอยมาให้ ผมก็อธิบายเรื่องมาตร และไมค์อันนั้น ท่านก็ส่งให้ผมเอง ผมเลยยื่นมือไปหยิบ กลายเป็นว่าผมเสียหายมากเลย ถ้าหากย้อนภาพดูจะเห็นว่า อธิบดีกรมป่าไม้พูดจบ ท่านกำลังจะส่งไมค์ให้ เห็นไหมไม่ได้ดึงเลย ผมส่งมือเลย ไม่ใช่แย่งไมค์ ผมน่ะเสียหายมากนะ สังคมพยายามเอาจุดเล็กๆ น้อยๆ มาทำให้ผมดูเลวร้ายมาก
สำหรับ ที่ดินตรงนั้นได้มาก่อนปี 2523 ซื้อมาจากพลตรี มนัส รัศมี เขาทำไร่มาตั้งนานแล้ว แต่ที่ไม่มีป่าแล้ว ถ้าจะรุกตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ลุงไรก็เพิ่งมาบอกว่า พลตรีมนัส เป็นคนซื้อจากเขาลุงไร ตอนนี้ลุงไรอายุ 78 เขาถือมานานแล้ว สืบทอดมาจากพ่อของเขา ผมจำไม่ได้ว่าซื้อมาจากพลตรีมนัส เท่าไร ถ้ารุกป่าจริงต้องดำเนินคดี ลุงไร ปู่ลุงไร พลตรีมนัสด้วย และผมด้วย รวมถึงชาวบ้านที่ครอบครองมาก่อนด้วย ที่ตรงนี้เป็นที่ทำมาหากิน ไม่ใช่ป่า
เมื่อปี 2544 ผมสร้างฟาร์มไก่ ต่อมาในปี 2547 ตอนปารีณาเขาอยู่สหรัฐฯ ผมถามลูกชายก่อนว่า อยากลงเล่นการเมืองไหมเขาไม่เอา ก็เลยถามเอ๋ว่า เอาไหม เพราะลูกเรียนดร.ที่สหรัฐฯ เอกไอที เขาเลยเก่งเรื่องคอมพิวเตอร์มากๆ เขาบอกว่าเอา อยากเป็นผู้แทนเหมือนพ่อ ผมก็ให้เขาดร็อปเรียน ปี 2548 ก็ลงเลือกตั้ง
โดยปี 2547 เอาชื่อเขาเป็นผู้บริหารฟาร์ม ปี 2552 เขาก็ถามว่าให้เอ๋ บริหารฟาร์มไก่ได้ไหม ผมก็อายุมากแล้วก็ให้เขาบริหาร ภาษีบำรุงท้องที่จ่ายในชื่อปารีณาตั้งปี 2552 ผมก็ไม่รู้โอนไปชื่อเขาเมื่อไร
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา ผมก็เพิ่งรู้ว่าที่ดินเป็นชื่อปารีณา โอนวันที่ 16 มี.ค. 53 ผมก็เพิ่งรู้ เขาเห็นว่าเป็นพ่อไปแอบโอนเฉยๆ ก็ได้ ที่ดินทั้งหมดโอนทีเดียว ทั้งหมดนี่แหละ 600 ไร่ ที่อื่นๆ ถ้ามีชื่อปารีณา ที่อื่นจะค้นได้หมดไปค้นที่อบต.ได้หมด
ที่เป็นเอกสารสิทธิเป็นของผม แต่ภาษีบำรุงท้องที่ผมให้ตัวแทนไปจ่าย ต่อจากนั้นก็เป็นของปารีณาทั้งหมด ผมไม่ทราบว่าใครโอน มาทราบ และเมื่อวันที่ 29 พ.ย. เป็นชื่อของปารีณาทั้งหมด และมีชื่อคนหนึ่งเป็นคนที่โอนในทางกฎหมายก็เป็นชื่อของปารีณาไป ตอนโอนผมไม่รู้เลย
การโอนเนี่ยนะ ผมไม่รู้ ถ้ารู้ผมก็จะบอกว่าอย่าเพิ่งโอนเลย ความจริงถ้าผมตายไปผมก็ต้องให้เขาอยู่แล้ว ตอนแจ้งป.ป.ช.เขาก็ไม่ได้บอกเขาเลย เขาแจ้งป.ป.ช.เขาก็ไม่ได้บอกเลย ถ้าเป็นชื่อของเขามี ค้นได้เลย เขาเข้าใจผิดไง โอนซ้ำซ้อนก็ได้ ชื่อตามเอกสารที่โอน จากคนที่โอนซ้ำๆ โอน 2 ครั้งเป็นชื่อเขา ก็สืบจากเอกสารได้
"ประเด็นที่เกิดขึ้นเพราะเอ๋ พูดในสภาแรง พูดเปิดโปงอดีตนายกฯ ทุจริต ไปเสวยสุขต่างประเทศ ลูกน้องติดคุกหัวโตหลายครั้ง ทางพรรคพลังประชารัฐก็ให้เขาพิทักษ์นายกฯ และท่านประวิตร ก็มีฟีดแบ็กกลับไป สิ่งเหล่านี้เป็นขบวนการรับใช้อำนาจเก่า เพื่อกำจัดปารีณา ปิดปากปารีณา ไม่ให้พูดในสภาต่อไปอีก กำจัดให้พ้นจากการเป็นส.ส.เป็นเกมการเมือง ผมสงสารลูกสาวผม ผมได้ที่ดินมาตั้งแต่ก่อนเขาเกิด พาไปตั้งแต่เล็กๆ เขาโดนข้อหาบุกรุกป่า ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ สงสารลูกเพราะถูกเกมการเมือง ผมบอกท่านธรรมรัฐไปว่า ไม่ต้องมาช่วยผม ขอความเป็นธรรมแค่นั้นเอง นายกฯ และท่านนายกฯ เขาไม่ได้มายุ่งมาเกี่ยว ไม่มีใบสั่ง เพราะต้องทำตามกฎหมาย ไม่มีใครช่วยผม"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านเพิ่มเติม...
2019-12-02 13:58:00Z
https://news.google.com/__i/rss/rd/articles/CBMiL2h0dHBzOi8vd3d3LnRoYWlyYXRoLmNvLnRoL25ld3Mvc29jaWV0eS8xNzE2NTE40gEA?oc=5
0 Comments:
Post a Comment