31 ต.ค.62 - ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีค้ามนุษย์โรฮิงญาหรือโรฮีนจา ชาวบังคลาเทศและเมียนมา หมายเลขดำ คม.27/2558 ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้องยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ ประกอบด้วยทหาร ตำรวจ ผู้บริหารการเมืองท้องถิ่น และพลเรือนทั้งไทยและสัญชาติเมียนมาร์ รวม 103 คน ในความผิดฐานสมคบกันค้ามนุษย์ กับบุคคลที่อายุไม่เกิน 15 ปี และไม่เกิน 18 ปี, มีส่วนร่วมอาชญากรรมข้ามชาติฯ และความผิดอื่น โดยระหว่างพิจารณาคดี นายสุรีชัย อาหะหมัด จำเลยที่ 26 ได้เสียชีวิต
สำหรับจำเลยเจ้าหน้าที่รัฐรายสำคัญ อาทิ นายบรรจง หรือโกจง ปองพล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา จำเลยที่ 1, นายอ่าสัน หรือหมู่สัน หรือบังสัน อินทธนู อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 2 , นายประสิทธิ์ หรือเดช หรือบังเบส หรือบังเค เหล็มเหล๊ะ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 6, นายอาบู หรือ ส.จ.บู ฮะอุรา อดีตสมาชิก อบจ.อำเภอควนโดน จ.สตูล จำเลยที่ 14, นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายก อบจ. จ.สตูล จำเลยที่ 29, พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบกและอดีต ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยกที่ 1 ระนอง จำเลยที่ 54 ส่วนพลเรือนจำเลยที่สำคัญ คือนายซอเนียง อานู หรืออันวา หรือโซไนท์ จำเลยที่ 46 ซึ่งมีสัญชาติเมียนมาร์ มีพฤติการณ์เป็นนายหน้าขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทย
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2560 ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษา 500 หน้า นานร่วม 13 ชม. ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลา 22.00 น. คำพิพากษาศาลชั้นต้นครั้งนั้นให้ลงโทษจำคุกนายบรรจง หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา จำเลยที่ 1, นายอ่าสัน หรือบังสัน อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 2,นายประสิทธิ์ หรือเดช อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลปาดังเบซาร์ จำเลยที่ 6 จำคุกคนละ 78 ปี (ศาลให้นับโทษจำเลยที่ 6 จากคดีศาลจังหวัดนาทวีด้วย คดีหมายเลขแดง 459/2560) นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายก อบจ. จ.สตูล จำเลยที่ 29 จำคุก 75 ปี, นายซอเนียง จำเลยที่ 46 ซึ่งเป็นนายหน้าขบวนการค้ามนุษย์ จำคุก 94 ปี, พล.ท.มนัส อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยที่ 54 จำคุก 27 ปี
ส่วนจำเลยที่ 10 ,11 , 53 ,99 ,101 จำคุกคนละ 74 ปี / จำเลยที่ 39 ,56 จำคุกคนละ 37 ปี /จำเลยที่ 4 จำคุก 57 ปี /จำเลยที่ 12 ,47 จำคุก 78 ปี/ จำเลยที่ 5 จำคุก 79 ปี /จำเลยที่ 18 จำคุก 77 ปี /จำเลยที่ 28 จำคุก 57 ปี 9 เดือน / จำเลยที่ 43 จำคุก 50 ปี 16 เดือน / จำเลยที่ 40 จำคุก 50 ปี / จำเลยที่ 16 , 38 จำคุกคนละ 75 ปี / จำเลยที่ 57 , 58 จำคุกคนละ 76ปี / จำเลยที่ 3 , 20 จำคุก 14 ปี 8 เดือน / จำเลยที่ 17 , 96 จำคุก คนละ 22 ปี /จำเลยที่ 7 จำคุก 4 ปี /จำเลยที่ 13 ,19 จำคุกคนละ 17 ปี 3 เดือน/จำเลยที่ 44 จำคุก 15ปี 4 เดือน / จำเลยที่ 21 , 55 จำคุกคนละ 11 ปี 6เดือน / จำเลยที่ 8 ,30 ,45 ,81 จำคุกคนละ 23 ปี / จำเลยที่ 14 , 31 ,33 จำคุกคนละ 27 ปี /จำเลยที่ 22 จำคุก 79 ปี /จำเลยที่ 27 ,48 จำคุก 77 ปี /จำเลยที่ 25 จำคุก 57 ปี 9 เดือน / จำเลยที่ 78 ,88 จำคุกคนละ 14 ปี 3 เดือน /จำเลยที่ 59 ,60 ,65 ,66 ,67 ,74 ,79 ,87 ,88 ,97 และ 100 จำคุก 19 ปี / จำเลยที่ 42 จำคุก 6ปี
แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงของจำเลย 1, 2 ,4 ,5 ,6 ,10, 11, 12 ,16, 18, 22, 25, 27, 28 ,29, 38, 43 ,46 ,47, 48 ,53, 57 ,58, 99, 101 จำคุกสูงสุดคนละ 50 ปี พร้อมทั้งมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กรวม 7 ราย ทุนทรัพย์ตั้งแต่ 54,500-159,000 บาท และผู้เสียหายซึ่งมีอายุเกินกว่า 15 ปี รวม 51 ราย ทุนทรัพย์ตั้งแต่ 59,000 – 265,500 บาท รวมทุนทรัพย์ค่าเสียหายทั้งหมด 4,400,250 บาท
โดยพิพากษายกฟ้องจำเลย 40 ราย แต่ยังให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ประกอบด้วย จำเลยที่ 9 , 24 , 32 , 34 , 35 , 36, 37 , 52 ,63 , 71 72 ,73 ,75, 76, 77 ,80, 82 ,83, 84 ,85, 86, 89, 90 ,91, 92 , 94 ,95, 98 ส่วนจำเลยที่ยกฟ้องแต่ไม่ได้สั่งขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ คือจำเลยที่ 15, 23, 41, 61, 62, 64, 68, 69, 70, 93, 102, 103
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ครั้งนี้ ศาลจัดให้จำเลยที่มีจำนวนมาก และทนายความ นั่งฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดี 704 ส่วนกลุ่มญาติที่ติดตามมาฟังคำพิพากษาด้วยนั้น และสื่อมวลชน จัดพื้นที่ให้นั่งฟังที่ห้อง 701 (ที่มีพื้นที่นั่งประมาณ 100-200 คน) โดยมีการถ่ายทอดภาพและเสียงการอ่านคำพิพากษาคดี ผ่านกล้องวงจรปิด-จอโปรเจคเตอร์ เพื่อรักษาความเรียบร้อยและความปลอดภัยบริเวณศาล ขณะที่วันนี้ก็มีญาติของจำเลยในคดีดังกล่าวมาร่วมให้กำลังใจเต็มห้องพิจารณา 701 ขณะที่ญาติของจำเลยบางส่วนออกมานั่งนอกห้องพิจารณาด้วย เนื่องจากที่นั่งไม่เพียงพอ
ขณะเดียวกันศาลได้ดูแลการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีเจ้าพนักงานตำรวจศาล (Court Marshal) หลายสิบนาย กระจายบริเวณห้องพิจารณาทั้งสอง รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ได้ยืนประจำตามจุดต่างๆ หน้าห้องพิจารณาคดี ส่วนบริเวณรอบศาลอาญา ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน คอยดูแลอำนวยความปลอดภัยและความสะดวกการจราจร
โดยการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น เนื่องจากมีจำเลยจำนวนมาก ศาลได้เริ่มเช็คชื่อจำเลยก่อนในเวลา 10.00 น.เศษ กระทั่งเมื่อเวลา 10.57 น.จึงเริ่มอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งคาดว่าจะอ่านคำพิพากษายาวไปจนถึงช่วงบ่าย ซึ่งจำเลยสำคัญที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการประกันตัว วันนี้ศาลก็ได้เบิกตัวมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
สำหรับคดีนี้มีจำเลยที่ศาลชั้นต้นพิพากษาและไม่มีคู่ความฝ่ายใดยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทำให้คดียุติไปตามผลคำพิพากษาชั้นต้นให้ยกฟ้อง คือ จำเลยที่ 15 , 41 , 61 , 62 , 64 , 68 , 69 , 70 , 93 , 102 , 103
2019-10-31 05:54:42Z
https://www.thaipost.net/main/detail/49254
0 Comments:
Post a Comment